บริษัท โชคชัยจักรกลเกษตร จำกัด
1. บริษัท โชคชัยจักรกลเกษตร จำกัด (“บริษัท” “เรา” “พวกเรา” หรือ “ของเรา”) ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย ตลอดจนการดำเนินการอื่นใด กับข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่บริษัท (“ข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562) โดยข้อมูลส่วนบุคคล จะถูกเก็บรักษาในที่ปลอดภัยและเป็นความลับตามที่ได้กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“นโยบาย”)
2 หลักการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และดำเนินการด้วยวิธีอื่นใด (“ประมวลผล”) ต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้สำหรับการสมัครงานนี้ (ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากใบสมัครงาน หรือจากรูปแบบอื่นที่ท่านได้ให้ไว้ ในส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครงาน เช่น ทางโทรศัพท์ หรือการสัมภาษณ์ เป็นต้น)ทั้งนี้ บริษัทอาจได้รับหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก เช่น ผู้สรรหาบุคลากร การอ้างอิงจากนายจ้างคนก่อน หุ้นส่วนทางธุรกิจ ผู้รับจ้างงานช่วงที่ให้บริการด้านสรรหาบุคลากรหรือความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้าน ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (เช่น บริษัทที่เปรียบเทียบวิชาชีพ) ผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติความเป็นมา ผู้ให้บริการด้านการสืบค้นข้อมูล และผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ (เช่น บริษัทที่ให้คะแนนความน่าเชื่อถือ) รวมถึงข้อมูลที่เปิดเผยจากแหล่งที่มาที่เป็นสาธารณะ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ (เช่น Facebook) ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นต้น
3. รูปแบบของข้อมูลส่วนบุคคล ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมประกอบไปด้วย (1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคล เช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด เลขที่หนังสือเดินทาง/เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เป็นต้น (2) ข้อมูลเกี่ยวกับคุณวุฒิและประวัติการทำงานของท่าน เช่น ประกาศนียบัตรจากโรงเรียน/มหาวิทยาลัย ประวัติการเรียน การทดสอบทางวิชาการหรือภาษา หนังสือรับรองและหนังสืออ้างอิง เป็นต้น (3) ข้อมูลเกี่ยวกับการการสมัครงานของท่าน เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลการสัมภาษณ์งาน และหลักฐานอ้างอิงต่าง ๆ เป็นต้น (4) ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการขัดกันของผลประโยชน์ เช่น ผลประโยชน์ในทางธุรกิจอื่นของท่านหรือของญาติ ซึ่งอาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของบริษัท หรือมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับกับคู่ค้าของบริษัทหรือไม่ เป็นต้น (5) ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความ หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย และประวัติอาชญากรรม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินคดีความทางแพ่ง ทางอาญา หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับการล้มละลาย เป็นต้น (6) กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน – ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เช่น เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส รายละเอียดของบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่อยู่ในการดูแลของท่าน ประวัติสุขภาพ และภาพถ่าย เป็นต้น ข้อมูลที่บริษัทประมวลผลอาจรวมถึง “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” อันหมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการแก้ไขเป็นคราว ๆ รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับอื่น เช่น ข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน โดยในการรับสมัครพนักงาน และขั้นตอนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครพนักงาน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน เช่น ประวัติสุขภาพ, ประวัติอาชญากรรม เป็นต้น ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังระบุไว้ข้างต้นจำเป็นต่อการพิจารณาเพื่อเลือกรับพนักงาน และดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรรหาพนักงาน ว่าจ้างพนักงานทั้งสิ้น ซึ่งหากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามขั้นตอนการรับสมัครพนักงานตามที่ระบุข้างต้น บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการพิจารณารับสมัครงาน และดำเนินการอื่นใดตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องได้
4. ความถูกต้องของข้อมูล ท่านรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้แก่บริษัทนั้น ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นข้อมูลล่าสุดตามที่บริษัทร้องขอ
5. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจ้างงาน รวมถึง(1) การดำเนินการและการจัดการกับใบสมัครงานของท่าน รวมถึง การจัดการสัมภาษณ์งานและทดสอบ การจัดการประเมิน การประเมินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอื่นใดที่จำเป็นสำหรับขั้นตอนการจ้างงาน(2) การประเมินความเหมาะสมของท่านต่อตำแหน่งหน้าที่ตามที่บริษัทพิจารณาว่าเหมาะสม ตลอดจนการตรวจสอบการอ้างอิงของท่าน ประวัติการทำงาน หรือการตรวจสอบอย่างละเอียด(3) การกำหนดค่าจ้าง ค่าตอบแทน การจ่ายเงินโบนัส และผลประโยชน์อื่น ๆ (4) การติดต่อสื่อสารภายในบริษัท (5) การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ กฎเกณฑ์ นโยบาย วิธีปฏิบัติ รวมถึงข้อบังคับการทำงานของบริษัท (6) กรณีได้รับการเสนอตำแหน่งงาน – ตรวจสอบประวัติก่อนการจ้างงาน และประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับท่าน (รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้อง”)
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ (“ผู้รับโอนข้อมูล”) (ซึ่งบุคคลดังกล่าวอาจอยู่ในหรือนอกประเทศของท่าน) เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่า(1) บริษัทในเครือ ซึ่งหมายรวมถึง บริษัท SIAM ADVANCE MACHINERY จำกัด, บริษัท ADVANCED IMPLEMENTS จำกัด, บริษัท AROONKIT SUPPLIER จำกัด หรือบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ซึ่งบริษัท โชคชัยจักรกลเกษตร จำกัด เป็นผู้ถือหุ้น(2) ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา ที่ปรึกษา คู่สัญญา ผู้รับจ้างงานช่วง และผู้ให้บริการซึ่งเป็นคู่สัญญาฝ่ายที่สาม รวมถึง เช่น ผู้สรรหาบุคลากร บริษัทที่เป็นเจ้าของ สนับสนุน และ/หรือดูแลรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท หรือ โปรแกรมที่ช่วยในการสรรหาบุคลากร และระบบของฝ่ายทรัพยากรบุคคลอื่น ๆ (รวมถึงการคำนวณระบบค่าตอบแทนและผลประโยชน์) และบริษัทที่ตรวจสอบการอ้างอิงของท่าน รับรองการตรวจสอบประวัติ และดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดในนามของเรา เป็นต้น(3) หน่วยงานราชการ หน่วยงานผู้มีอำนาจควบคุมกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย ศาลและเขตอำนาจศาล ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกโอนไปยังที่อื่น ก็ต่อเมื่อบริษัทมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยตามระดับความคุ้มครองที่เหมาะสม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
7. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้สมัครที่ไม่ได้รับคัดเลือก เพื่อวัตถุประสงค์ในการจ้างงานในอนาคต เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่ไม่ได้รับคัดเลือก ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของบริษัท หรือตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับได้กำหนดหรืออนุญาต บริษัทอาจเปิดเผยใบสมัครงานและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบริษัทในเครือ เพื่อการพิจารณาหากมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น
8. สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิดังนี้
– ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายทก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
– ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
– ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
– ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัท จะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
– ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัท จะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
– ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัท จะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
– ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ติดต่อเราหากท่านประสงค์จะสอบถามเกี่ยวกับนโยบายและวิธีปฏิบัติของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือยื่นคำขอเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ประสงค์ให้บริษัทจัดการ ท่านสามารถส่งคำถามหรือคำขอมาที่ E-mail : info@chokchai.co.th หรือ CAM CALL CENTER : 02-420 5378-84
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายบริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทอาจขอความยินยอมในการเปลี่ยนแปลงจากท่านล่วงหน้า